สั่งทูตพาณิชย์จับตาค่าเงินหลังอังกฤษโหวดออกจากอียู

นางอภิรดีตันตราภรณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า สั่งการให้ทูตพาณิชย์ประจำในประเทศยุโรป รวมถึงอังกฤษ ติดตามความเคลื่อนไหวและรายงานสถานการณ์ทุกวัน หลังมติของสหราชอาณาจักรว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป(อียู) แต่อย่างไรก็ตาม ยังดำเนินการตามแผนผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมายโต 5%

ด้านนายสมเกียรติตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีการลงประชามติของสหราชอาณาจักร ว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่นั้นเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้เนื่องจากหากอังกฤษออกจากอียูอาจมีผลทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างรุนแรงจนกระทบต่อราคาสินค้าไทยที่จะแพง ขึ้นในทันทีจะทำให้ช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าการส่งออกของไทยจะลดลง เพราะคำสั่งซื้อหายไปบางส่วนจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น ขณะเดียวกันต้องจับตาต่อด้วยว่าเงินปอนด์อ่อนค่านั้น จะกระทบต่อเงินยูโรให้อ่อนค่าลงตามด้วยหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันนี้ไทยส่งออกไปอียู 9% ของมูลค่าการส่งออก แต่ก็ไม่ถึงกับกังวลมากนักเพราะไทยส่งออกไปอียูไม่มากเหมือน 20 ปีก่อนที่ส่งออกมากกว่า 20% ของมูลค่าการส่งออก

loading...

"โดยภาพรวมแล้วไม่น่ากังวลมากนักเพราะไทยส่งออกไปอังกฤษเพียง 1-2% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไทยไม่ได้ห่วงในเรื่องกฎหมายหรือการค้ามากนักเพราะถึงอังกฤษจะออกจากอียูก็ต้องใช้ เวลาอีก 2-3 ปีกว่าจะออกได้จริงๆคงไม่เร็วในการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบต่างๆยังมีเวลาที่จะให้เราปรับตัวได้ แต่ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีสิ่งที่ต้องจับตาและน่าห่วงคือ ค่าเงินสกุลปอนด์และยูโรมากกว่า "นายสมเกียรติกล่าว

loading...

ทั้งนี้ผลการศึกษาจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าในส่วนของผลกระทบต่อการค้าขายระหว่างประเทศนั้น ไทยจะได้รับผลกระทบน้อยจากสัดส่วนที่ไทยส่งออกไปสหราชอาณาจักรเพียง 2% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่ลดลงของสหราชอาณาจักรเอง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารแปรรูปรถยนต์และส่วนประกอบและแผงวงจรไฟฟ้า ส่วนผู้นำเข้าของไทยก็นำเข้าลดลงเพราะปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนผลกระทบต่อการลงทุนในสหราชอาณาจักร พบว่าก็ได้รับผลกระทบน้อยเช่นกัน เนื่องจากการลงทุนทางตรงที่ไทยไปลงทุนมีสัดส่วนเพียง 4.4%

CR..KHAOSOD