"เจ๊หน่อย" แจงไม่ใช่แกนนำถกส่อวงแตกหลังนิพิฏฐ์ขอเลื่อนเหตุผู้มีอำนาจหวาดระแวงตือชี้ "เซ็ตซีโร่" แค่คิดก็ผิดแล้ว "บิ๊กตู่" ฮึ่มอย่าทำผิดกฎหมายเผยยูเอ็น เข้าใจ - คสชแจงพอใจหลุดเทียร์ 3 ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมมือกันโวยอีกโดนไล่จับผิดชี้นศไม่ยอมประกันเองคสชปัดอุ้ม "เทือก" ยันจับตาทุกฝ่ายพัลวันละเมิดสิทธิน.... ศ วัฒนายันพบแม้ว - เป็นสิทธิจตุพรติง "บิ๊กตู่" ตั้งแง่ปรองดองบิ๊กป้อมยันซื้อแน่เรือดำน้ำจีน 3 ลำวงเงิน 3.6 หมื่นล้าน
"บิ๊กตู่" โวยโดนไล่จับผิด
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำว่า ขอร้องสื่อต้องช่วยลดความขัดแย้งทำให้บ้านเมืองสงบด้วย ไม่ใช่อะไรก็ให้ตนไปรบกับความขัดแย้งรวมทั้งด้านการเมืองด้วย ทำให้ตนเสียเวลาเรื่องการเมืองก็ต้องไปแก้ปัญหาไปหาข้อสรุปว่าจะต้องทำอย่างไรปรับปรุงตัวเองอย่างไรและวันข้างหน้าเข้ามาจะทำอย่างไรต้องบอกให้ประชาชนได้รับรู้ไม่ใช่มาต่อสู้ แต่เรื่องเดิม ๆ เรื่องเก่าเรื่อง กฎหมายเรื่องความผิดสิ่งเหล่านี้นักการเมืองทำได้ไม่ต้องมาคุยกับตนไปคุยกับประชาชนแทนแล้วส่งข่าวมา
พล. อ. ประยุทธ์กล่าวว่าวันนี้ยังไม่เห็นส่งอะไรมามัว แต่ไล่จับผิดรัฐบาลไล่จับผิดกกต จับผิดกร ธ นี่หรือคนที่จะได้รับการเลือกตั้งต่อไปครั้งหน้า ขอถามถ้าตนไม่พูดก็ไม่รู้สึกกัน ส่วนผลงานของตนจะดีหรือไม่ก็จะปรากฏเอง ไม่ใช่ทำวันนี้แล้วพรุ่งนี้เสร็จ ที่ผ่านมามีอุปสรรคเพราะการบริหารงานเป็นแท่งมาตลอด ไม่มีการบูรณาการแยกงบประมาณหากไม่แก้ไขวันนี้ก็จะแก้ไขไม่ได้เป็นช่องทางให้มีทุจริตงานไม่ต่อเนื่อง
ฮึ่ม "หน่อย" อย่าผิดกฎหมาย
เมื่อถามถึงคุณหญิงสุดารัตน์เกยุราพันธุ์แกนนำกลุ่มกทม พรรคเพื่อไทยนัดหารือกับนักการเมืองพล. อ. ประยุทธ์กล่าวว่าตนไม่รับรู้จะไปคุยก็คุย แต่อย่าให้ผิดกฎหมายก็แล้วกันกฎหมายคำสั่งคสช เขียนไว้ว่าอย่างไรตนไม่ได้อนุญาต แต่บอกว่าใครจะทำอะไรก็ได้แต่อย่าผิดกฎหมาย
"ที่ ผ่านมาเขาไม่เคยคุยกันเลยหรืออย่างไร คุยกันลับๆครั้งนี้จะมาคุยเปิดเผยสื่อจะรับผิดชอบด้วยหรือไม่จะรับได้หรือไม่ถ้าตีกันอีก "พล. อ. ประยุทธ์กล่าว
พล. อ. ประยุทธ์กล่าวด้วยว่าก็ไปคุยกันเงียบ ๆ แล้วส่งมาเท่าที่รู้ตอนนี้ที่จะส่งมา คือทำอย่างไรจะเร่งเรื่องการนิรโทษกรรม เรื่องการปรองดอง โดยต้องลดความขัดแย้งการไล่ล่าฆ่าฟันพวกเขา ถามว่าตนไปไล่ล่าฆ่าฟันพวกเขาเรื่องอะไร ตนไม่ใช่ศัตรูกับเขาพวกเขาเป็นศัตรูกับกฎหมาย ทำผิดกฎหมายก็ให้ออกมาสู้กันตามกฎหมายก็จบ แล้วค่อยมาพูดอย่างอื่น
เมื่อถามถึงกรณีนายกฯ ระบุมีการส่งสัญญาณจากฝ่ายการเมืองถึงการนิรโทษกรรม ปรองดองพล. อ. ประยุทธ์กล่าวว่าสื่อก็สนใจ แต่เรื่องแบบนี้ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ แต่ตนฟังจากที่พูดกันทั่วไปตนไม่พูดกับใครพูดกับสื่อก็มากแล้ว
เผยยูเอ็นเข้าใจ - คสชแจง.
พล. อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีตัวแทนรัฐบาลเดินทางไปชี้แจงการดำเนินการต่างๆ หลังคสช. เข้ามายึดอำนาจต่อรองเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่นครนิวยอร์กสหรัฐว่าได้รับรายงานแล้วทุกอย่างเรียบร้อยยูเอ็นได้เตรียมคณะรับฟังรับทราบการทำความเข้าใจทั้งนี้ได้ส่งเอกสารรูปภาพบันทึกการปฏิบัติทั้งหมด ทั้งของรัฐบาลและอีกฝ่ายได้ให้ยูเอ็นพิจารณา เพื่อจะได้รู้ถึงเหตุผลและความจำเป็น รู้สิ่งที่ผิดหรือถูกทั้งนี้แล้วแต่การพิจารณาของยูเอ็นเบื้องต้นยูเอ็นเกิดความเข้าใจขอให้ไทยเดินหน้าตามโรดแม็ปสู่การเลือกตั้ง และรัฐบาลจะต้องเดินหน้าประเทศให้ได้ ทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่ตน แต่อยู่ที่คนไทยและผู้ที่จะเข้ามาบริหาร
พล. อ. ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐออกแถลงการณ์รายงานการค้ามนุษย์โดยไทยขยับขึ้นมาระดับเทียร์ 2 แม้ทูตสหรัฐระบุว่าการทำงานของไทยยังไม่ถึงมาตรฐานขั้นต่ำ ว่า ความเห็นของคนเพียงคนเดียวจะสนใจอะไร เราต้องทำต่อตนไม่ได้ทำเพื่อใครหรือเขาต้องมาบังคับให้ทำ แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำในเรื่องที่มีปัญหา ต้องเอาหลักการมาดูว่ามีความบกพร่องตกไหนก็แก้ตรงนั้น ส่วนการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย(ไอยูยู) ต้องแก้กว่า 30 เรื่องก็แก้มาตลอด
เรียกร้องลดราวาศอกกันบ้าง
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ตอนหนึ่งว่า เรื่องการเดินหน้าประเทศยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งหลายอย่างเป็นเพราะมีความคิดสุดโต่ง หารือกันไม่ได้หาทางออกไม่ได้คิดได้พูดได้ แต่ทำไม่เป็นจึงต้องมาช่วยกัน ตนพร้อมรับฟังความเห็นที่เป็นประโยชน์ ซึ่งตนไม่ได้เก่งกาจกว่าใคร แต่มันต้องมาคุยกันโดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ถ้าเราฟังกันบ้างลดราวาศอกกันบ้างมันก็มีอะไรที่ทำได้ในวันนี้อย่าเอาความขัดแย้งมาพูดก่อนอย่าเอาเรื่องผิดกฎหมายมาพูดก่อน ทุกอย่างต้องเริ่มต้นภายใต้กรอบกฎหมาย
พล. อ. ประยุทธ์กล่าวว่าการทำประชามติใกล้เข้ามาทุกวันทุกคนต้องร่วมมือกันใช้สิทธิ์รัฐบาลจะไม่ก้าวล่วงให้ประชาชนตัดสินใจเองกฎหมายต่างๆก็ต้องระมัดระวังถ้าทุกคนมีเจตนาดีบริสุทธิ์ก็ไม่น่ากังวลทั้งนี้การขยายความ ขัดแย้งใด ๆ โดยสื่อหรือโซเชี่ยลทั้งเจตนาหรือไม่ก็ตามโดยไม่สนใจข้อกฎหมาย มันเลยทำให้สังคมเชื่อว่ารัฐดำเนินการ 2 มาตรฐาน มันต้องมาตรฐานเดียวเพราะกฎหมายตัวเดียวกัน ไม่เคยคิดไปละเมิดสิทธิ์ใคร และพยายามไม่ใช้อำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่มันก็จำเป็นเพราะคนปั่นป่วนยังมีอยู่
โวยน. ศ. ไม่ยอมประกันเอง
"เราอาจต้องใช้มาตรา 44 ควบคุมตัวเข้าจับกุมเพราะกฎหมายปกติมักไม่ค่อยเชื่อ แต่ไม่เคยไปทำร้ายทุบตีหรือทรมานแค่นำมาสอบสวนให้สู้คดี แต่ต่างคนต่างพยายามบิดเบือนหลายคนเคยให้ความเมตตาแล้วให้ประกันบอกไม่ประกัน อีกจะขออยู่ในคุกก็ตามใจต้องเข้าใจด้วยไม่ใช่ผมไปบังคับให้เขาอยู่ผมเมตตาอยู่แล้วไม่ว่านิสิตนักศึกษา แต่เขาบอกเขาไม่อยากออกจากคุกจนกว่าจะมีประชาธิปไตยผมไปบังคับไม่ได้อยู่แล้วขึ้นอยู่กับคน ไทยจะคิดว่าผมไปรังแกเขาหรือเปล่าพ่อแม่ก็เดือดร้อนร้องไห้ แล้วกลายเป็นว่าพ่อแม่มาเกลียดชังตนอีก วันนี้เราต้องไม่สร้างความเข้าใจผิดในสังคมไทยและในต่างประเทศด้วย" พล. อ. ประยุทธ์กล่าว
พล. อ. ประยุทธ์กล่าวอีกว่ากรณีผู้ที่อยู่ต่างประเทศหนีไปพูดที่โน่นที่นี่ประชุมแล้วกลับมาเล่นงานประเทศไทยผมคิดว่าไม่น่ากลับมาอยากกลับก็กลับไม่ได้คิดว่าคนไทยคงไม่ยอมอยู่แล้ว ไปประณามประเทศตัวเอง ซึ่งคนเหล่านี้คนไทยไม่น่าจะยอมรับได้ วันหลังจะเอาชื่อขึ้นจอพวกที่หนีไปหนีด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หนีแล้วไปด่าประเทศไทย ทำไมคนเหล่านั้นถึงเอาประเทศเป็นตัวประกัน ทำลายประเทศชาติเอาประชาชนเป็นโล่กำบัง มีคนไม่กี่คนที่ทำความผิดแล้วหลบหนีคดี จริงๆแล้วคนเดียวนั่นแหละทำทุกอย่างให้มันบานปลายไปหมดคนอื่นก็ตามกันไปด้วยความหลงเชื่อหรือจะเชื่อมั่นศรัทธามันผิดกฎหมายทั้งหมดขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณอย่าให้ใครมาปิดหูปิดตา หรือเปิดหูเปิดตาในทางที่ไม่ถูกต้อง ฟังความทั้ง 2 ทาง
ป้อมลั่นทำทุกเรื่องให้เป็นสากล
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประวิตรวงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงสหรัฐอเมริกา ได้ปรับอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยจาก เทียร์ 3 มาเป็นเทียร์ 2 เฝ้าระวังว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทั้งภาคเอกชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน แต่จะหยุดแค่นี้ไม่ได้ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป ทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ให้เป็นสากลการลดระดับเหลือเทียร์ 2 ส่งผลให้การค้าขายสินค้าต่างๆมีความเป็นสากลดีขึ้นถือว่าโอเคในภาพรวมจากนี้ทำไปเรื่อย ๆ ทำในทุกๆเรื่องที่เขายังดูเรา อยู่ต้องทำให้ ดีขึ้นตามหลักสากลให้ได้ในทุกเรื่อง
เมื่อถามว่าหวังว่าไทยจะหลุดจากใบเหลือง ของปัญหาประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) ด้วยหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่าไม่ได้หวัง ทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการและตามหลักสากล เราหวังไม่ได้เพราะเราไม่ใช่เป็นคนตรวจ เขามีเจ้าหน้าที่มาตรวจตามหลักสากลเราก็ต้องทำให้ดี
"นายกฯ หวังมากไม่ได้หวังว่าจะให้ดีขึ้น แต่หวังให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการประชาชน ฝ่ายผู้ประกอบการทุกคนร่วมมือร่วมใจกันช่วยกันดำเนินการในทุกเรื่อง ไม่ว่าค้ามนุษย์ไอยูยูไอเคโอเอฟเอเอเอียร์ซ่าทั้งหมดเราต้องดำเนินการช่วยกันในภาพรวม " พล.อ. ประวิตรกล่าว
ไม่ขวาง "หน่อย" คุยนักการเมือง
พล. อ. ประวิตรกล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์เกยุราพันธุ์แกนนำพรรคเพื่อไทย เชิญอดีตนักการเมืองพูดคุยเพื่อหาทางออกประเทศว่า จะคุยก็คุยไป อย่ามาคุยกันหลายคนเพราะมีกฎหมายอยู่ ตนไม่ว่า เพราะทุกคนหวังดีต่อประเทศชาติทั้งนั้น แต่อย่าให้ผิดกฎหมายถ้าผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกฎหมายไม่น่าห่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะคุยเรื่องรัฐธรรมนูญหรือเรื่องอื่นก็ได้ใช่หรือไม่ พล. อ. ประวิตรกล่าวว่าอย่าให้ขัดแย้งก็แล้วกันขัดแย้งไม่ได้จะพูดเรื่องอะไรก็พูดไปอย่าเกินเลยอย่าไปชักพาแนะนำซึ่งไม่ใช่หน้าที่เพราะหน้าที่นั้นมีคนทำอยู่
เมื่อ ถามถึงการเคลื่อนไหวของคุณหญิงสุดารัตน์ในช่วงนี้ พล. อ. ประวิตรกล่าวว่าต้องไปถามคุณหญิงสุดารัตน์เองตนไม่รู้ไม่ได้เป็นคนคิดอย่าล่วงล้ำอย่าทำให้เกิดแตกแยกอย่าทำให้เกิดความไม่สงบจะมาทำให้เกิดความขัดแย้งไม่ได้มาทำผิดกฎหมายไม่ได้เท่านั้น
ชี้กกต. ดูแลวัฒนาโพสต์พบแม้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจในการดูแลเหตุการณ์ก่อนถึงวันประชามติหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่าตนเป็นคนทำก็ต้องมั่นใจไม่ใช่สักแต่ว่าทำต้องการให้ประเทศเดินหน้าไปให้ได้ช่วยกันแก้ไขนายกฯ เหนื่อยอย่างนี้ทุกวันเพราะต้องการทำให้บ้านเมือง ทำให้ประชาชนทั้งนั้น
เมื่อถึงกรณีนายวัฒนาเมืองสุขแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อพบนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกฯ จะส่งผลต่อการรณรงค์ประชามติหรือไม่พล. อ. ประวิตรกล่าวว่าต้องถามกกต ให้กกต. เป็นคนตัดสินถ้าผิดหรือไม่ผิดก็ว่าตามกฎหมายทำตามกฎหมายทั้งหมดกกต. เขารับผิดชอบอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คสช.ต้องทบทวนคำสั่งนักการเมืองเดินทางออกต่างประเทศหรือไม่ พล. อ. ประวิตรกล่าวว่าไม่ให้แล้วให้เลยไม่ต้องทบทวนเพราะเรื่องนี้ ศาลจะพิจารณาโดยดูพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ปล่อยให้เป็นเรื่องของศาลส่วนที่นายทักษิณมาเคลื่อนไหวใกล้ประเทศไทยต้องไปถามนายทักษิณจะมาถามตนได้อย่างไร
พรเพชรยัน "ม. 61" ไม่ปิดกั้น
ที่รัฐสภานายพรเพชรวิชิตชลชัยประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า น่ายินดีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาตรา 61 วรรคสองพ. ร. บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ไม่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้การออกเสียงประชามติวันที่ 7 ส. ค. นี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยสมความมุ่งหมายและเจตนารมณ์ส่วนเรื่องสิทธิเสรีภาพยืนยันว่ายังมีตามกฎหมายซึ่งความคิดเห็นของประชาชน เป็นสิ่งที่ทุกคนเคารพไม่ว่าจะเห็นอย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ตอนยื่นคำร้องนี้เข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ตนบอกตรงๆว่าไม่กังวล เพราะหลักกฎหมายก็ยืนยันหลักสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว อย่ามองว่ากฎหมายนี้ปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น
นายพรเพชรกล่าวว่า ส่วนที่มีมาตรการบางอย่างที่ไม่ใช่การแสดงสิทธิเสรีภาพ เป็นเรื่องของกระบวนการเช่นบิดเบือนด้วยคำกล่าวคำเท็จข่มขู่ขู่เข็ญซึ่งเพียงเท่านั้นไม่ผิด แต่จะผิดต่อเมื่อมีเจตนาพิเศษ จูงใจให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อย่างตนไม่ค่อยพูดเพราะในฐานะประธานสนช. แต่ถ้าในฐานะประชาชนตนสามารถวิจารณ์ได้ว่าดีหรือไม่ดี แต่ไม่ใช่ไปชักจูงให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งคงจำบทเรียนได้ การปลุกปั่นเดินขบวนไปปิดหน่วยเลือกตั้ง พูดเท็จจนทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ห้ามประชุมพรรคเหตุหวั่นชี้นำ
เมื่อ ถามว่าประชาชนยังไม่เข้าใจคำถามพ่วงประชามติมากนัก นายพรเพชรกล่าวว่าไม่เข้าใจต้องถามเรามีวิทยากรออกไปชี้แจงซึ่งจะอธิบายให้เข้าใจอย่างชัดเจนเท่าที่ตนลงพื้นที่ก็เข้าใจซึ่งบางคนก็เห็นด้วยบางคนไม่เห็นด้วยซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนที่นักการเมืองเรียกร้องให้เปิดโอกาสให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้นั้น คสช.จะเป็นผู้พิจารณาว่าสมควรหรือไม่ เข้าใจว่าคสช.คงมองว่ายังไม่ถึงขั้นตอนที่จะให้พรรคแสดงออกโดยการประชุมพรรค เพราะอาจถูกบิดเบือนได้ง่าย เนื่องจากคนหมู่มากมาร่วมประชุมและมีมติอย่างหนึ่งอย่างใด ก็จะเป็นเรื่องของเสียงพรรคการเมือง ไม่ใช่เสียงของประชาชนที่ได้ศึกษาและฟังคนอื่นพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ และถ้ามีการเคลื่อนไหวในลักษณะกลุ่มการ เมือง จะเข้าข่ายรวมตัวกันเพื่อปลุกปั่นยุยง
นายเสรีสุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท กล่าวว่าการออกมาของคุณหญิงสุดารัตน์เบื้องหน้าเพื่อส่งสัญญาณแต่งเนื้อเเต่งตัวลั่นกลองพร้อมลงเลือกตั้งหากประชามติผ่าน แต่เบื้องลึกนัยยะคืออะไรไม่ทราบตนว่าการออกมาไม่น่าผิดอะไร แต่ต้องขออนุญาตค สช. ก่อนตามกฎหมายไม่อย่างนั้นคงทำไม่ได้ตนตอบไม่ได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่ให้นายกฯ เป็นเจ้าภาพจัดเวทีปรองดองเองเพราะไม่รู้ว่าวิธีการในใจของนายกฯ คืออะไรอาจจะไม่ใช่เเค่จัดเวที ปรองดองอย่างเดียวก็ได้อย่างเช่นคำสั่งมาตรา 44 ของหัวหน้าคสช. ตามรัฐธรรมนูญใช้ได้ทั้งงานบริหารงานนิติบัญญัติเชื่อว่าเป็นอีกวิธียุติปัญหาได้อีกทางหนึ่ง
ตือหนุนเดินหน้าคุย "เจ๊หน่อย"
นายสมศักดิ์ปริศนานันทกุลที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวถึงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์นัดพูดคุยเพื่อหาทางออกประเทศว่า เป็นแนวคิดที่ดีเพราะที่ผ่านมา ถูกมองว่านักการเมืองเป็นต้นเหตุนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ถ้านักการเมืองมีใจมาหาทางแก้ร่วมกัน คงหาทางออกได้ไม่ยากเพราะมีเครือข่ายมีสมาชิกอยู่มาก ต้องไม่ลืมว่าแม้มีเวทีที่คสช.จัดหลายเวทีแล้ว แต่ไม่มีเวทีที่ฝ่ายการเมืองมาคุยกันเองเลย ดังนั้นประเด็นที่คุยจึงแตกออกไปได้ง่าย ถ้าฝ่ายการเมืองคุยเองน่าจะดีกว่า แต่ต้องไม่ทำให้เกิดความหวาดระแวง จะต้องยึดถือกติกาบ้านเมืองในภาวะเช่นนี้ ถ้าขืนทำผิดฝ่าฝืนยิ่งจะส่งผลให้เรื่องบานปลาย
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่าส่วนข้อเสนอ ที่ออกมาจะถูกนำไปปฏิบัติหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างน้อยได้รับการเสนอว่าควรเป็นไปอย่างไร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องค่อยนำไปใช้วิจารณญาณ ไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าสำเร็จถือเป็นกำไรถ้าไม่สำเร็จก็เท่าทุน เพียงแต่รับฟังข้อเสนอจากฝ่ายการเมืองบ้าง
จวก "เซ็ตซีโร่" แค่คิดก็ผิดแล้ว
นายสมศักดิ์กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันนัดต้องประสานกันหลายฝ่ายยืนยันตอนนี้ยังไม่ล้มเราเห็นว่าเป็นเรื่องดีมองเพื่อสังคมประเทศอย่ามองส่วนตัว อย่าอคติโดยมองว่าทำเพื่อหวังผลการเมือง ช่วงชิงภาวการณ์ความเป็นผู้นำอย่าคิดว่าทุกอย่างเป็นการเมืองอย่าหวาดระแวงอย่ามองว่าเป็นเรื่องได้ประโยชน์ได้เปรียบเสียเปรียบใครได้ความดีความชอบใครได้เปรียบทางการเมืองเพราะคนที่ได้จริงคือประเทศและสังคม
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวการเซ็ตซีโร่พรรคหรือยุบพรรคเริ่มต้นใหม่นั้น ไม่น่าเป็นไปได้เพราะแค่วิธีคิดก็ผิดแล้ว พรรคเป็นสถาบันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ไม่ได้มีความผิดใด ๆ อยู่ ๆ ให้จดทะเบียนใหม่คนในพรรคจะรู้สึกอย่างไรพรรคมีจิตวิญญาณขอให้คิดไว้ด้วยคนที่คิดเขาอาจคิดดี อยากให้เริ่มต้นด้วยความเท่าเทียมกัน แต่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของพรรคของสมาชิกพรรคเพราะบางพรรคอยู่มาหลายสิบปีซึ่งคนคิดคงไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น
นิพิฏฐ์ชี้ผู้มีอำนาจหวาดระแวง
นายนิพิฏฐ์อินทรสมบัติรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการนัดพูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์และนายสมศักดิ์ ว่าได้โทรศัพท์คุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ แล้วและแจ้งให้ทราบว่าตนขอเลื่อนไปก่อน เพราะมีความหวาดระแวงในสังคมเกิดขึ้น แม้เราจะมีเจตนาที่ดีซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ก็เข้าใจ จากนี้ตนจะทำความเข้าใจกับหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะผู้มีอำนาจว่าอย่าหวาดระแวงนักการเมือง เพราะนักการเมืองที่คิดแบบกลางๆก็มีพร้อมขอชี้แจงเหตุผลและหลักคิดต่อสังคมผ่านสื่อ
"ขอให้สังคมให้โอกาสกับกลุ่มคนที่มีความคิดกลางๆ ไม่สุดขั้วไปด้านใดว่าขอให้มีที่พื้นที่แสดงออก ไม่ใช่ฟังแต่คนที่มีแนวคิดสุดขั้วแต่ละฝ่าย ต่างพูดกันคนละที ถ้าอย่างนั้นถามว่าประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร จึงอยากให้คิดว่าสังคมไทยอย่าเดินแบบสุดขั้ว ขอโอกาสคนที่เห็นต่างและมีแนวคิดกลางๆ อย่างเรามีที่ยืนบ้าง "นายนิพิฏฐ์กล่าว
ที่พรรคประชาธิปัตย์นาย ธ นาชีรวินิจอดีตส. ส. กทม ปชป แถลงว่าการที่คุณหญิงสุดารัตน์โพสต์เฟซบุ๊กเชิงตำหนินายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคปชป ปิดฉากการพูดคุยกันของนักการเมืองนั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและยกตนข่มท่าน ยืนยันว่าโดยปกตินายอภิสิทธิ์คุยกับทุกฝ่าย ทั้งนักการเมืองข้าราชการและภาคเอกชน โดยไม่จำเป็นต้องแถลงข่าวให้เป็นประเด็นการเมือง หรือเรียกร้องความสนใจจากประชาชนทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์สนับสนุนให้มีการพูดคุยกันแต่ไม่ใช่สร้างประเด็นการเมือง ไม่เช่นนั้นการพูดคุยหาทางออกประเทศจะไม่มีทางสำเร็จ และการพูดคุยในวันนี้ทำกันอยู่ทุกคนไม่ว่าในเวทีสาธารณะหรือเวทีส่วนตัว แต่ไม่จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงรัฐประหาร จึงมองเป็นอื่นไม่ได้ คือหวังผลเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าตัวเองจะมาเป็นผู้นำที่จะหาทางออกของประเทศ
"เจ๊หน่อย" แจงไม่ใช่แกนนำถก
คุณหญิงสุดารัตน์เกยุราพันธุ์แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ออกข่าวขอเลื่อนการพูดคุยระหว่างนักการเมืองไปก่อน ว่า ขอย้ำทำความเข้าใจอีกครั้งว่าตนไม่ใช่แกนนำนัดพูดคุย แต่เกิดจากการเสวนาที่มหิดล โดยในวงเสวนามีการนัดกันว่าจะคุยกันสัปดาห์หน้า ต่อมานายนิพิฏฐ์โทรศัพท์มาเสนอว่าขอเลื่อนไปก่อน ซึ่งคิดว่านายนิพิฏฐ์คงจะแจ้งคนอื่นๆ แล้วเช่นกัน อยากให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าความคิดนี้เกิดบนพื้นฐานว่าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของ ปัญหา ก็มาคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้ลดปัญหาลงได้ เป็นประโยชน์ของส่วนรวมไม่ใช่ประโยชน์ของนักการเมืองหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ระบุรับไม่ได้ที่บอกว่ามาคุยกันเพื่อหาทางออกประเทศ เพราะนักการเมืองดีแต่พูดว่านิรโทษกรรม พูดว่าปรองดองคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าตนไม่ทราบว่าคนอื่นว่าอย่างไร แต่ตนไม่เคยพูดพวกเราเคารพกฎหมายอยู่แล้ว และเจตนาก็ไม่ได้ต้องการให้บ้านเมืองวุ่นวาย จึงจะไม่ทำอะไรให้เกิดความวุ่นวายหรือผิดกฎหมาย วัฒนายันพบแม้ว - เป็นสิทธิ
วันเดียวกันนายวัฒนาเมืองสุขอดีตรมว. พาณิชย์โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่าตนแปลกใจที่พล. อ. ประยุทธ์จันทร์โอชานายกฯ และหัวหน้าคสช จะให้ฝ่ายกฎหมายคสช พิจารณาความเหมาะสมที่ตนเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกฯ ที่ประเทศสิงคโปร์เพราะมันเป็นสิทธิโดยชอบ ทั้งยังไม่ผิดกฎหมายที่จะไปพบใครก็ได้ โดยไม่ต้องให้เหตุผล ที่สำคัญใช้เงินตัวเองเป็นค่าเดินทาง ไม่ได้ไปขอเบิกจากคสช คนที่จะพิจารณาว่าจะเหมาะสมหรือไม่คือตนกับนายทักษิณเท่านั้น แต่ติดใจคือพล. อ. ประยุทธ์ไปสงสัยได้อย่างไรว่าตนโพสต์ขอบคุณเพราะการที่พล. อ. ประยุทธ์ ยกเลิกคำสั่งห้ามบุคคลเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ได้ถือเป็นคุณงามความดีที่ต้องไปขอบคุณ เนื่องจากไม่มีสิทธิห้ามใครเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่แรกแล้ว
"คำว่านายกฯ ที่ผมขอบคุณคือนายกฯ ทักษิณที่กรุณาให้ความรู้เพราะนายกฯ ที่ผมยอมรับคือผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ใช่คนที่เข้าสู่ตำแหน่งโดยการยึดอำนาจจากประชาชน และยังรับไม่ได้กับพฤติกรรมในระหว่างที่อยู่ในตำแหน่ง มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน คุกคามและปิดกั้นการแสดงออกของผู้ที่เห็นต่าง รวมทั้งการแสดงตัวเป็นคนดี แต่ไม่ยอมรับการตรวจสอบเพราะนิรโทษกรรมให้ตัวเองมาตลอด ส่วนที่ กรธ.บริวารที่ตั้งขึ้นจะติดตามการถ่ายรูปคู่ของผมกับนายกฯทักษิณก็ตามสะดวก เพราะผมทำตามสิทธิโดยเปิดเผยและไม่ได้ทำอะไรผิดจึงไม่กังวล แต่ถ้าอยากเห็นของจริง มาขอดูได้เพราะผมยังใส่เสื้อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญทุกวัน" นายวัฒนาระบุ
loading...
จตุพรติง "บิ๊กตู่" ตั้งแง่
นายจตุพรพรหมพันธุ์ประธานนปช กล่าวในรายการมองไกลกรณีนายวัฒนาสวมเสื้อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถ่ายรูปคู่กับนายทักษิณทำให้โฆษก กรธ.เตือนให้ระวังจะผิดกฎหมายประชามติ หากนำรูปภาพดังกล่าวไปเผยแพร่แจกประชาชนว่า ส่วนตัวสงสัยว่าการจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล หรือไม่ และการใส่เสื้อถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ส่วนที่ระบุว่านายวัฒนาถ่ายรูปคู่กับนายทักษิณ คือการส่งสัญญาณคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นคำพูดที่มาจากคนในแม่น้ำ 5 สายสะท้อนว่ากลัวจะแพ้เกิดอาการลนลานทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ส่วนตัวยังไม่เคยเห็นว่านายทักษิณจะไปชี้นำประชาชนให้รับหรือไม่รับเลย ยืนยันว่าไม่มีใครจะสร้างความปั่นป่วนหรือขัดขวางการทำประชามติวันที่ 7 ส. ค. แน่นอนทุกคนต่างก็รอทำประชามติ รอดูว่าประชาชนจะยึดมั่นในเผด็จการหรือระบอบประชาธิปไตย
นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์สั่งจับตาคนที่มีปัญหาคิดจะจัดเวทีปรองดอง เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา และจะไม่ปรองดองกับคนทำผิดกฎหมายนั้น เขาเรียกว่าตั้งแง่กันมากกว่าเมื่อไรที่ควรจะถึงเวลาที่เหมาะสมหากจำได้เมื่อวันที่เข้ามายึดอำนาจ พล.อ. ประยุทธ์เคยสัญญาว่าจะคืนความสุข จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นภายในชาติใช่หรือไม่
นายจตุพรกล่าวถึง กนปช.ส่งทนายความขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 15 ก. ค. นี้กรณีชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนในการเปิดแถลงจัดตั้งศูนย์ปราบโกงเมื่อวันที่ 5 มิ. ย. ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นการใช้สิทธิตามกระบวนการปกติ ยืนยันว่าไม่มีการหลบเลี่ยงแน่นอน
คสช. ปัดอุ้ม "เทือก"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น นายสุเทพเทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ยังคงออกมาสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์โดยในวันนี้ออกมาชื่นชมมาตรา 107 ในเรื่องที่มาของ ส.ว. 200
ที่บก. ทบ พ. อ. ปิยพงศ์กลิ่นพันธุ์ทีมโฆษกคสช กล่าวถึงกรณีวิพากษ์วิจารณ์ คสช.ไฟเขียวให้นายสุเทพออกมาเคลื่อนไหว ว่าคสช. ติดตามการเคลื่อนไหวของทุกฝ่ายพร้อมประเมินพฤติกรรม โดยนำพฤติกรรมในอดีตมาเปรียบเทียบว่าเขาหวังผลต่อสิ่งใด ยืนยัน คสช.ไม่เข้าข้างหรือยืนข้างใดข้างหนึ่ง
ส่วนที่มองว่าจะไปละเมิดสิทธินั้นเป็นเรื่องที่คิดและพูดกันไป ซึ่งเชื่อว่าจะไม่สามารถจุดกระแสนักศึกษากลุ่มอื่นลุกขึ้นมาร่วมต่อต้านได้ เพราะเชื่อว่า คสช.ทำงานตามกรอบกฎหมายและยึดความเป็นธรรม ปฏิบัติกับประชาชนทุกกลุ่มตามความเหมาะสมของสถานการณ์ หากมีหน่วยงานหรือองค์กรใดมีข้อสงสัย
ขอให้กกต.พิจารณากรณีนายวัฒนาสวมเสื้อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โพสต์ลงเฟซบุ๊กจะผิดกฎหมายประชามติหรือไม่นั้น แต่เบื้องต้นการใส่เสื้อรณรงค์ว่ารับหรือไม่รับนั้น ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องดูเจตนาว่ามุ่งทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่
นายสมชัยยังกล่าวถึงกรณีประชาชนยังขาด ความเข้าใจเนื้อหาสาระรัฐธรรมนูญว่า กกต.มีหน้าที่รณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจะบอกว่าเป็นเพราะกกต.ไม่ได้ แต่เป็นความประสงค์ร่วมกันของหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม คิดว่ามีรายการเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติในช่องต่างๆ อีก 13 ครั้งน่าจะมีส่วนช่วยทำความเข้าใจเนื้อหาสาระได้แต่ยอมรับว่าเรื่องรัฐ
loading...
CR.KhaoSod
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น